คำซ้ำ


                    คำซ้ำ   
คำซ้ำ คือ การนำคำประเภทเดียวกัน ชนิดเดียวกันมาซ้ำ ๆ กัน มักจะมีไม้ยมก (ๆ) เป็นเครื่องสังเกต เช่น แดง ๆ ดำ ๆ ดี ๆ คำซ้ำมีหลายประเภท ดังนี้
๑. ซ้ำคำเพื่อบอกความเป็นพหูพจน์ เช่น พ่อ ๆ แม่ ๆหนุ่ม ๆ สาว ๆ เด็ก ๆ
๒. ซ้ำคำเพื่อเน้นน้ำหนักให้มากขึ้น เช่น ดี ๆ เลว ๆขาว ๆ สวย ๆ
๓. ซ้ำคำเพื่อบอกความไม่แน่ใจ เช่น ท้าย ๆ นั่งอยู่ข้างหลัง ๆ หลัง ๆ
๔. ซ้ำคำเพื่อแยกออกเป็นส่วน ๆ เช่น ชิ้น ๆ เรื่อง ๆ ตู้ ๆ
๕ ซ้ำคำเพื่อให้เกิดภาพพจน์ เช่น หม้อข้าวเดือดปุด ๆ เขาพยักหน้าหงึก ๆ เธอใจสั่นริก ๆ เขาไหว้ปลก ๆ ลมพัดฉิว ๆ
ฝนตกจั๊ก ๆ เป็นต้น
คำซ้ำ เป็นคำที่เกิดจากการสร้างคำขึ้นใหม่ โดยนำคำมูลซึ่งส่วนมากเป็นคำพยางค์เดียวมาซ้ำกัน มีความหมาย
เปลี่ยนแปลงไป อาจเน้นหนักขึ้น เบาลงหรือไม่ก็เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น ในการเขียนใช้ไม้ยมกแทนคำหลัง คำส่วนมากใช้เป็นคำซ้ำได้ มีเฉพาะบางคำที่เป็นคำซ้ำไม่ได้ บางคำต้องเป็นคำซ้ำเท่านั้น
คำที่เป็นคำซ้ำไม่ได้
- กริยาช่วย เช่น จะ คง ได้ อาจ
- บุพบท เช่น ของ แห่ง ด้วย กับ
- สันธาน เช่น เมื่อ หลังจาก ตั้งแต่ และ แต่ หรือ จึง
คำที่ต้องเป็นคำซ้ำ
 
- ส่วนมากเป็นคำวิเศษณ์ เช่น หยิมๆ หลัดๆ ดิกๆ ยองๆ
- นำคำซ้อนมาแยกเป็นคำซ้ำ เช่น เจ็บไข้ เป็น เจ็บๆ ไข้ๆ เลียบเคียง เป็น เลียบๆ เคียงๆ อิดเอื้อน เป็น อิดๆ เอื้อนๆ
- นำคำซ้ำมาประกอบเป็นคำซ้อน เช่น เปรี้ยวๆ เค็มๆ นั่งๆ นอนๆ เราๆ ท่านๆ
คำซ้ำมีความหมายผิดไปจากคำมูลเดิม แต่ยังคงมีเค้าของความหมายเดิม
- บอกพหูพจน์ คำเดิมอาจเป็นเอกพจน์หรือพหูพจน์ก็ได้ เมื่อเป็นคำซ้ำกลายเป็นพหูพจน์อย่างเดียว
เช่น เด็กๆ เล่นฟุตบอล หนุ่มๆ มากับสาวๆ
- บอกความไม่เจาะจง การจำแนกเป็นพวก และความเป็นพหูพจน์ เช่นเชิญผู้ใหญ่ๆ ไปทางโน้น เด็กๆ มาทางนี้
คำซ้ำบอกความหมายใหม่ ไม่เนื่องกับความหมายของคำมูลเดิม เช่น พื้นๆ (ธรรมดา) กล้วยๆ (ง่าย) น้องๆ (เกือบ, ใกล้, คล้าย) อยู่ๆ ( เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ) งูๆปลาๆ
คำที่ออกเสียงซ้ำกัน ไม่ใช่คำซ้ำเสมอไป คำซ้ำจะต้องเป็นคำมูลที่ออกเสียงซ้ำกันแล้วเกิดคำใหม่ขึ้น
และมีความหมายเปลี่ยนไป คำซ้ำใช้ไม้ยมกแทนคำมูลหลังคำที่ออกเสียงซ้ำกันในบางกรณีเป็นคนละคำ
และอยู่ต่างประโยคกัน ไม่จัดเป็นคำซ้ำและใช้ไม้ยมก แทนคำหลังไม่ได้ เช่น เขาทำงานเป็นเป็นเพราะเธอสอนให้ เขาจะไปหาที่ที่สงบอ่านหนังสือ 
ข้อสังเกตของคำซ้ำ 
๑. คำต่างประเภทกัน ต่างชนิดกันซ้ำกันไม่ได้ เช่น 
- นายดำดำนา (ดำแรกเป็นนาม ดำหลังเป็นกิริยา คำคนละชนิดกัน ซ้ำกันไม่ได้) 
- แม่รักลูกลูกก็รู้อยู่ว่ารัก (ลูกคำแรกเป็นกรรม ลูกคำสองเป็นประธาน ซ้ำกันไม่ได้ เพราะทำหน้าที่คนละอย่างกัน) 
๒. ในกรณีพูดแล้วหยุด มีจังหวะหยุด ถือว่าไม่ได้ทำกิริยาต่อเนื่อง ไม่ใช่คำซ้ำ เช่น 
- ไป ไป๊ ไปให้พ้น (ไม่ใช่คำซ้ำ) 
- เป็นเป็นเป็น ตายเป็นตาย (ถือว่าไม่ใช่คำซ้ำ คำซ้ำต้องเป็นคู่ ๆ)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น